อันตรายจากสารเคมีในหมึกพิมพ์ ของบรรจุภัณฑ์อาหาร ภัยเงียบที่ควรรู้

ภัยเงียบในครัวเรือน! รู้หรือไม่ว่าหมึกพิมพ์บนบรรจุภัณฑ์อาหารอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ? มาเรียนรู้วิธีเลือกบรรจุภัณฑ์ที่ปลอดภัย และปกป้องคนที่คุณรักจากสารเคมีอันตราย

หมึกพิมพ์ในบรรจุภัณฑ์อาหารมีผลกระทบต่อสุขภาพจริงหรือ? คำถามนี้อาจดูเหมือนไกลตัว แต่ความจริงแล้วเป็นเรื่องใกล้ตัวที่เราไม่ควรมองข้าม เพราะสารเคมีในหมึกพิมพ์อาจปนเปื้อนสู่อาหารที่เราบริโภค และส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาวได้

ปัญหาเรื่องความปลอดภัยของหมึกพิมพ์ในบรรจุภัณฑ์อาหารไม่ใช่เรื่องใหม่ มีกรณีการเรียกคืนผลิตภัณฑ์อาหารหลายครั้งที่เกี่ยวข้องกับสารเคมีจากหมึกพิมพ์ปนเปื้อน เช่น การตรวจพบสารเคมีในหมึกพิมพ์ที่ใช้กับกล่องอาหารสำเร็จรูป หรือการพบสารปนเปื้อนในหมึกพิมพ์ที่ใช้กับฉลากสินค้า

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับความปลอดภัยของหมึกพิมพ์ในบรรจุภัณฑ์อาหาร

  • หมึกพิมพ์ food grade คืออะไร?
  • สารเคมีในหมึกพิมพ์อันตรายต่ออาหารหรือไม่?
  • จะรู้ได้อย่างไรว่าบรรจุภัณฑ์อาหารปลอดภัย?

บทความนี้จะพาคุณไปเจาะลึกถึงอันตรายจากสารเคมีในหมึกพิมพ์ของบรรจุภัณฑ์อาหาร เพื่อให้คุณได้เข้าใจถึงภัยเงียบนี้ และรู้วิธีป้องกันตัวเองและคนที่คุณรัก

หมึกพิมพ์ในบรรจุภัณฑ์อาหารคืออะไร?

หมึกพิมพ์ที่ใช้ในบรรจุภัณฑ์อาหารมีหลากหลายชนิด แต่ละชนิดก็มีส่วนประกอบทางเคมีที่แตกต่างกัน หมึกพิมพ์เหล่านี้มีหน้าที่ในการพิมพ์ข้อความ รูปภาพ หรือลวดลายบนบรรจุภัณฑ์อาหาร เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ หรือเพื่อดึงดูดความสนใจของผู้บริโภค

ภาพแสดงสารเคมีอันตราย เช่น Benzophenone และ Phthalates ที่อาจปนเปื้อนในอาหารจากบรรจุภัณฑ์

ทำไมหมึกพิมพ์อาจเป็นแหล่งปนเปื้อนในอาหาร?

ถึงแม้ว่าหมึกพิมพ์จะไม่ได้สัมผัสกับอาหารโดยตรง แต่สารเคมีในหมึกพิมพ์ก็สามารถปนเปื้อนสู่อาหารได้หลายทาง เช่น

  • การระเหย : สารเคมีบางชนิดในหมึกพิมพ์สามารถระเหยออกมาเป็นไอ และปนเปื้อนสู่อาหารได้
  • การซึมผ่าน : สารเคมีบางชนิดสามารถซึมผ่านบรรจุภัณฑ์ และปนเปื้อนสู่อาหารได้
  • การสัมผัสโดยตรง : ในกรณีที่หมึกพิมพ์สัมผัสกับอาหารโดยตรง เช่น การพิมพ์บนถุงอาหาร สารเคมีก็สามารถปนเปื้อนสู่อาหารได้โดยตรง

สารเคมีอันตรายที่พบในหมึกพิมพ์

สารเคมีหลายชนิดที่ใช้ในหมึกพิมพ์อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ ตัวอย่างสารเคมีอันตรายที่อาจพบในหมึกพิมพ์ ได้แก่

  • สารกลุ่ม Benzophenone และ ITX : สารเคมีเหล่านี้พบได้ในหมึก UV และอาจเป็นสารก่อมะเร็ง
  • สาร Hydrocarbons จากน้ำมันแร่ (MOH , MOAH , MOSH) : สารเคมีเหล่านี้อาจส่งผลเสียต่อการทำงานของตับ
  • สารฟีนอลและตัวทำละลาย (Toluene , Xylene , Ethylbenzene) : สารเคมีเหล่านี้อาจมีผลต่อระบบประสาทและฮอร์โมน
  • สาร Plasticizers (Phthalates) : สารเคมีเหล่านี้อาจรบกวนการทำงานของฮอร์โมนในร่างกาย
สารเคมีอันตรายในหมึกพิมพ์ เช่น Benzophenone , Phenols , Hydrocarbons และ Plasticizers กับผลกระทบต่อสุขภาพ

อันตรายและผลกระทบต่อสุขภาพจากสารเคมีในหมึกพิมพ์

วิธีการปนเปื้อนของสารเคมีในอาหาร

สารเคมีในหมึกพิมพ์สามารถปนเปื้อนสู่อาหารได้หลายวิธี ที่พบบ่อยที่สุดคือกระบวนการที่เรียกว่า “Migration” หรือการเคลื่อนที่ของสารเคมีจากหมึกพิมพ์ไปสู่อาหาร

ปัจจัยที่ส่งผลต่อการปนเปื้อน

  • อุณหภูมิ : อุณหภูมิสูงสามารถเร่งการปนเปื้อนของสารเคมีได้
  • ชนิดของอาหาร : อาหารที่มีไขมันสูงอาจดูดซับสารเคมีได้ง่ายกว่าอาหารชนิดอื่น
  • ระยะเวลาเก็บรักษา : ระยะเวลาที่อาหารสัมผัสกับบรรจุภัณฑ์นานขึ้น ก็จะมีความเสี่ยงต่อการปนเปื้อนมากขึ้น

ผลกระทบต่อสุขภาพ

สารเคมีในหมึกพิมพ์บางชนิดอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาว ตัวอย่างผลกระทบต่อสุขภาพ ได้แก่

  • มะเร็งและความผิดปกติของเซลล์ : สารเคมีบางชนิดในหมึกพิมพ์อาจเป็นสารก่อมะเร็ง
  • ฮอร์โมนและภาวะผิดปกติของระบบสืบพันธุ์ : สารเคมีบางชนิดอาจรบกวนการทำงานของฮอร์โมน และส่งผลต่อระบบสืบพันธุ์
  • ความผิดปกติของตับและไต : สารเคมีบางชนิดอาจสะสมในร่างกาย และส่งผลเสียต่อการทำงานของตับและไต
  • ผลกระทบต่อเด็กและสตรีมีครรภ์ : เด็กและสตรีมีครรภ์อาจมีความเสี่ยงสูงกว่าต่อการได้รับผลกระทบจากสารเคมีในหมึกพิมพ์

มาตรฐานความปลอดภัยและแนวทางป้องกัน

กฎหมายและมาตรฐานความปลอดภัย

ในปัจจุบันมีกฎหมายและมาตรฐานความปลอดภัยที่เกี่ยวข้องกับหมึกพิมพ์ที่ใช้ในบรรจุภัณฑ์อาหาร ทั้งในระดับสากลและระดับประเทศ

  • มาตรฐานสากล : องค์กรต่างๆ เช่น FDA (สหรัฐอเมริกา) , EFSA (สหภาพยุโรป) และ JECFA (WHO/FAO) ได้กำหนดมาตรฐานความปลอดภัยสำหรับหมึกพิมพ์ที่ใช้ในบรรจุภัณฑ์อาหาร
  • มาตรฐานไทย : สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) ได้กำหนดมาตรฐานความปลอดภัยสำหรับหมึกพิมพ์ที่ใช้ในบรรจุภัณฑ์อาหารในประเทศไทย
  • ข้อกำหนดเกี่ยวกับหมึกพิมพ์ Food Grade : หมึกพิมพ์ที่ใช้ในบรรจุภัณฑ์อาหารควรเป็นหมึกพิมพ์ food grade ซึ่งหมายถึงหมึกพิมพ์ที่ปลอดภัยต่อการสัมผัสกับอาหาร และไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพ

 วิธีการตรวจสอบว่าบรรจุภัณฑ์ปลอดภัยหรือไม่

  • สัญลักษณ์ Food Safe : บรรจุภัณฑ์อาหารที่ปลอดภัยมักจะมีสัญลักษณ์ Food Safe หรือสัญลักษณ์อื่นๆ ที่บ่งบอกถึงความปลอดภัยในการสัมผัสกับอาหาร
  • มาตรฐานที่ควรมองหา : ผู้บริโภคควรเลือกซื้อผลิตภัณฑ์อาหารที่มีบรรจุภัณฑ์ที่ได้มาตรฐานความปลอดภัย เช่น มอก. หรือมาตรฐานสากลอื่นๆ
  • วิธีทดสอบสารเคมีในบรรจุภัณฑ์ : ในปัจจุบันมีชุดทดสอบที่สามารถใช้ตรวจสอบสารเคมีในบรรจุภัณฑ์อาหารได้ แต่ชุดทดสอบเหล่านี้อาจมีราคาแพง และต้องใช้ความชำนาญในการใช้งาน
เปรียบเทียบบรรจุภัณฑ์อาหารแบบ Food-Grade กับบรรจุภัณฑ์ที่ใช้หมึกพิมพ์เคมีทั่วไป
ตัวอย่างบรรจุภัณฑ์อาหารปลอดภัยที่ใช้หมึก Food-Grade เทียบกับบรรจุภัณฑ์ที่มีสารเคมีปนเปื้อน
บรรจุภัณฑ์กาแฟที่ปลอดภัยเทียบกับบรรจุภัณฑ์ที่ใช้หมึกพิมพ์เคมีซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตราย

ทางเลือกของผู้บริโภคและผู้ประกอบการ

ทางเลือกหมึกพิมพ์ที่ปลอดภัย

  • หมึกพิมพ์ Food Grade : ผู้ประกอบการควรเลือกใช้หมึกพิมพ์ food grade ที่ได้รับการรับรองความปลอดภัยจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
  • หมึกพิมพ์ทางเลือก : นอกจากหมึกพิมพ์ food grade แล้ว ยังมีหมึกพิมพ์ทางเลือกอื่นๆ ที่ปลอดภัยกว่า เช่น หมึกพิมพ์ที่ทำจากพืช (Soy Ink) หรือหมึกพิมพ์ที่ใช้น้ำเป็นตัวทำละลาย (Water-based Ink)

คำแนะนำสำหรับผู้บริโภค

  • เลือกซื้อผลิตภัณฑ์จากแหล่งที่น่าเชื่อถือ : ผู้บริโภคควรเลือกซื้อผลิตภัณฑ์อาหารจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ และมีการควบคุมคุณภาพของบรรจุภัณฑ์
  • อ่านฉลากผลิตภัณฑ์อย่างละเอียด : ผู้บริโภคควรอ่านฉลากผลิตภัณฑ์อย่างละเอียด เพื่อตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับบรรจุภัณฑ์ และหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีบรรจุภัณฑ์ที่น่าสงสัย
  • หลีกเลี่ยงบรรจุภัณฑ์ที่เสียหาย : ผู้บริโภคควรหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีบรรจุภัณฑ์ที่เสียหาย หรือมีการเปลี่ยนแปลงรูปร่าง
  • ลดการใช้บรรจุภัณฑ์พลาสติก : ผู้บริโภคควรลดการใช้บรรจุภัณฑ์พลาสติก และหันมาใช้บรรจุภัณฑ์ทางเลือกอื่นๆ ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

แนวทางสำหรับผู้ประกอบการ

  • ปรับเปลี่ยนมาใช้หมึกพิมพ์ที่ได้รับการรับรอง : ผู้ประกอบการควรปรับเปลี่ยนมาใช้หมึกพิมพ์ที่ได้รับการรับรองความปลอดภัยจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
  • ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของผู้บริโภค : ผู้ประกอบการควรให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของผู้บริโภค และเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ที่ปลอดภัยต่อสุขภาพ
  • สร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค : ผู้ประกอบการควรสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค โดยการให้ข้อมูลเกี่ยวกับความปลอดภัยของบรรจุภัณฑ์อย่างโปร่งใส

กรณีศึกษาและตัวอย่างจริง

เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนยิ่งขึ้น ขอนำเสนอตัวอย่างกรณีศึกษาที่เกี่ยวข้องกับอันตรายจากหมึกพิมพ์ในบรรจุภัณฑ์อาหาร

  • กรณีศึกษาที่ 1 : ในปี พ.ศ. 2566 มีการเรียกคืนผลิตภัณฑ์อาหารสำเร็จรูปหลายยี่ห้อในประเทศไทย เนื่องจากตรวจพบสารเคมีจากหมึกพิมพ์ในบรรจุภัณฑ์เกินมาตรฐานที่กำหนด
  • กรณีศึกษาที่ 2 : ในต่างประเทศมีการศึกษาพบว่า สารเคมีบางชนิดที่ใช้ในหมึกพิมพ์ สามารถปนเปื้อนสู่อาหารและส่งผลกระทบต่อพัฒนาการของเด็ก

สรุป

อันตรายจากสารเคมีในหมึกพิมพ์ของบรรจุภัณฑ์อาหารเป็นภัยเงียบที่เราไม่ควรมองข้าม การเลือกบรรจุภัณฑ์ที่ปลอดภัย และการสนับสนุนผู้ประกอบการที่ใส่ใจต่อสุขภาพของผู้บริโภคเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อปกป้องสุขภาพของเราและคนที่เรารัก

  • ผู้บริโภค : อ่านฉลากผลิตภัณฑ์อย่างละเอียด เลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่มีบรรจุภัณฑ์ที่ได้มาตรฐาน และลดการใช้บรรจุภัณฑ์พลาสติก
  • ผู้ประกอบการ : หันมาใช้หมึกพิมพ์ที่เป็นมิตรต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม สร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค และร่วมกันสร้างสังคมที่ปลอดภัยจากสารเคมี

คำแนะนำเพิ่มเติม

  • หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับความปลอดภัยของบรรจุภัณฑ์อาหาร ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ
  • ผู้บริโภคสามารถมีส่วนร่วมในการผลักดันให้ผู้ประกอบการหันมาใช้บรรจุภัณฑ์ที่ปลอดภัย โดยการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่ใส่ใจต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม