หาร้านอาหารมังสวิรัติที่ไหนดี? แนะนำร้านอร่อยในกรุงเทพฯ และเชียงใหม่
ความนิยมของอาหารมังสวิรัติที่เพิ่มขึ้น ทำให้การมองหาร้านอาหารมังสวิรัติที่ตอบโจทย์กลายเป็นเรื่องสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นรสชาติ ราคา บรรยากาศ หรือบริการ
5 วิธีแก้ปัญหาผมร่วงที่ได้ผลในปี 2024 นวดหนังศีรษะ ใช้น้ำมันหอมระเหย แชมพูลดผมบาง วิตามินรวม ผลิตภัณฑ์เสริมกรดโฟลิก สาเหตุที่ทำให้ผมร่วง ผมบางอาจเกิดจากพฤติกรรมการใช้ชีวิต พันธุกรรม เช่น การย้อมสี ดัด หรือยืดผม หรือขาดวิตามินและแร่ธาตุอื่นๆ เช่น ไรโบฟลาวิน ซีลีเนียม และสังกะสี
ปัญหาผมร่วงและผมบางเป็นเรื่องที่น่ากังวลใจสำหรับหลายคน ไม่ว่าจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง การมีผมสวยเงางามถือเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยเสริมบุคลิกภาพและความมั่นใจให้กับเรา วันนี้เราจะมาพูดถึงสาเหตุของผมร่วง ผมบางกัน ซึ่งเมื่อเข้าใจสาเหตุแล้ว จะทำให้เราสามารถเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมได้
สาเหตุของผมร่วง ผมบาง
ผมร่วง ผมบาง อาจเกิดจากพฤติกรรมการใช้ชีวิต พันธุกรรม หรือทั้งสองอย่าง โรคทางการแพทย์บางอย่างก็อาจนำไปสู่ผมบางได้เช่นกัน พฤติกรรมการใช้ชีวิตที่อาจส่งผลต่อ ผมร่วง ผมบาง ได้แก่
- การดูแลผมมากเกินไป เช่น การย้อมสี ดัด หรือยืดผม
- การใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผมที่รุนแรง เช่น สเปรย์และเจลจัดแต่งทรงผมที่มีส่วนผสมแรง
- การรวบผมแน่นเกินไป ไม่ว่าจะเป็นการมัดผมหรือรวบหางม้าเวลาออกกำลังกาย ซึ่งอาจทำให้ผมขาดและหลุดร่วงได้ในระยะยาว
- การไม่ได้รับสารอาหารบางอย่างอย่างเพียงพอ เช่น ธาตุเหล็ก กรดโฟลิก และแร่ธาตุอื่นๆ ที่ช่วยให้รากผมผลิตเส้นผมได้ตามปกติ
- ความเครียดเรื้อรัง ซึ่งเกี่ยวข้องกับการเพิ่มขึ้นของฮอร์โมนความเครียด เช่น คอร์ติซอล ฮอร์โมนความเครียดที่มากเกินไปอาจกระตุ้นให้เกิดภาวะผมร่วงและรากผมหยุดการเจริญเติบโต
ผมบางอาจเป็นกรรมพันธุ์หรือเกิดจากโรคทางการแพทย์ที่มีอยู่ คุณอาจมีผมบาง
- เพิ่งคลอดลูก
- เพิ่งหยุดกินยาคุมกำเนิด
- กำลังมีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน
- ลดน้ำหนักมากในระยะเวลาสั้นๆ
- กำลังรักษาโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง
- มีความบกพร่องของระบบภูมิคุ้มกัน
- มีความผิดปกติของผิวหนังหรือการติดเชื้อ
- ขาดวิตามินดี
- ขาดวิตามินและแร่ธาตุอื่นๆ เช่น ไรโบฟลาวิน ซีลีเนียม และสังกะสี
ในบางกรณีที่พบได้น้อยกว่า ผมบางอาจเกิดจาก
- การดึงผมของตัวเอง
- โรคผิดปกติเกี่ยวกับการกิน
- ไข้สูง
วิธีการรักษาและการดูแลผมร่วงได้ที่บ้าน
ผมร่วง ผมบางบางรูปแบบอาจรักษาได้ที่บ้าน ลองพิจารณา 5 ตัวเลือกต่อไปนี้ แต่อย่าลืมปรึกษาแพทย์ก่อน
1.นวดหนังศีรษะ
- ข้อดี : ราคาไม่แพงและทำได้ง่าย
- ข้อเสีย : ไม่ได้แก้ปัญหาผมบางที่เกิดจากโรคทางการแพทย์
วิธีที่ถูกที่สุดในการทำให้ผมหนาขึ้นคือการนวดหนังศีรษะ ไม่เสียค่าใช้จ่าย และถ้าทำถูกวิธีก็ไม่เป็นอันตราย เวลาสระผม ให้ใช้ปลายนิ้วนวดหนังศีรษะเบาๆ เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต เพื่อประโยชน์ที่มากขึ้น คุณอาจลองใช้อุปกรณ์นวดหนังศีรษะเพื่อขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วด้วย
2.น้ำมันหอมระเหย
- ข้อดี : งานวิจัยในสัตว์บ่งชี้ถึงประสิทธิผลและหาซื้อน้ำมันหอมระเหยได้ทั่วไปตามร้านขายยาและร้านสุขภาพ
- ข้อเสีย : ต้องการการศึกษาในมนุษย์เพิ่มเติม และน้ำมันเหล่านี้อาจก่อให้เกิดอาการแพ้ได้
น้ำมันหอมระเหย คือของเหลวที่สกัดจากพืชบางชนิดและมักใช้ในอโรมาเธอราปีและการแพทย์ทางเลือกอื่นๆ น้ำมันลาเวนเดอร์มีผู้ใช้อย่างประสบความสำเร็จกับอาการผมร่วงแบบ androgenetic และยังมีการวิจัยในสัตว์ในปี 2016 สนับสนุนด้วย แม้ว่าจะต้องมีการศึกษาในมนุษย์เพื่อยืนยันผลลัพธ์ ลาเวนเดอร์มักใช้ร่วมกับน้ำมันอื่นๆ เช่น โรสแมรี่และไทม์ อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีหลักฐานเพียงพอว่าน้ำมันหอมระเหยสามารถรักษาผมร่วงหรือผมบางได้ ถ้าคุณตัดสินใจลองวิธีนี้ ให้ตรวจสอบว่าน้ำมันหอมระเหยของคุณเจือจางในน้ำมันพาหะ เช่น น้ำมันมะพร้าวหรือโจโจบา ทดสอบน้ำมันปริมาณเล็กน้อยที่แขนและรอ 24 ชั่วโมงเพื่อดูว่ามีปฏิกิริยาใดๆ เกิดขึ้นหรือไม่ ผิวแดง ระคายเคือง ลมพิษ หรือผื่นอาจบ่งบอกถึงอาการแพ้
3.แชมพูลดผมบาง
- ข้อดี : สามารถใช้ร่วมกับการนวดหนังศีรษะได้และมีผลิตภัณฑ์บางชนิดหาซื้อได้ง่าย
- ข้อเสีย : แชมพูเพิ่มวอลลุ่มไม่ได้แก้ปัญหาผมร่วงโดยตรงและคุณอาจต้องใช้ยาตามใบสั่งแพทย์
แชมพูลดผมบางช่วยได้ 2 แบบ ประการแรก ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ช่วยเพิ่มวอลลุ่มให้กับผม ทำให้ผมดูหนาขึ้น ซึ่งอาจเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่มีผมบางหรือผมเส้นเล็กโดยธรรมชาติ แชมพูสำหรับผมบางหรือผมร่วงมักมีวิตามินและกรดอะมิโนเพื่อช่วยให้หนังศีรษะแข็งแรงขึ้นด้วย เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ใช้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ตามคำแนะนำ คุณยังสามารถสอบถามแพทย์เกี่ยวกับแชมพูตามใบสั่งแพทย์ได้
4.วิตามินรวม
- ข้อดี : วิตามินรวมสามารถช่วยแก้ปัญหาผมบางที่เกิดจากการขาดสารอาหารและหาซื้อได้ตามร้านขายยา
- ข้อเสีย : การรับสารอาหารมากเกินไปอาจเป็นอันตราย
ผมที่แข็งแรงขึ้นอยู่กับสุขภาพโดยรวมที่ดีของคุณ ในกรณีที่ขาดสารอาหารหรือมีความผิดปกติเกี่ยวกับการกิน รากผมอาจไม่สามารถผลิตเส้นผมใหม่ได้ การตรวจเลือดสามารถช่วยระบุได้ว่าคุณขาดสารอาหารบางอย่างหรือไม่ หากพบว่าคุณขาดสารอาหารหลายชนิด แพทย์อาจแนะนำให้กินวิตามินรวมทุกวัน ผมที่แข็งแรงต้องการธาตุเหล็ก กรดโฟลิก และสังกะสีในการเจริญเติบโต ให้เลือกวิตามินรายวันสำหรับผู้ชายและผู้หญิงที่มีส่วนผสมเหล่านี้ ตัวอย่างเช่น OLLY Heavenly Hair Gummies และ HUM Hair Strong Gummies อย่างไรก็ตาม คุณควรหลีกเลี่ยงการรับวิตามินเสริมหากได้รับสารอาหารที่จำเป็นเพียงพอแล้ว ไม่มีหลักฐานว่าการรับวิตามินเพิ่มจะช่วยแก้ปัญหาผมบางได้ และการได้รับสารอาหารบางอย่างมากเกินไปอาจส่งผลเสียมากกว่าผลดี
5.ผลิตภัณฑ์เสริมกรดโฟลิก
- ข้อดี :
- ช่วยแก้ปัญหาผมร่วงที่เกิดจากการขาดกรดโฟลิกและสารอาหารบางชนิด เช่น โปรตีน ไบโอติน และวิตามินซี
- เหมาะสำหรับผู้หญิงตั้งครรภ์ที่มีความต้องการกรดโฟลิกสูง เพื่อป้องกันภาวะผมร่วงระหว่างตั้งครรภ์และหลังคลอด
- ข้อเสีย :
- อาจไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาผมร่วงที่ตรงจุด หากสาเหตุไม่ได้มาจากการขาดกรดโฟลิกหรือสารอาหารบางชนิด
- การรับประทานกรดโฟลิกมากเกินไปอาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงได้ เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย เป็นต้น
- ผลิตภัณฑ์เสริมกรดโฟลิกบางชนิดอาจมีราคาค่อนข้างสูง ขึ้นอยู่กับยี่ห้อและคุณภาพ
กรดโฟลิกหรือวิตามินบี 9 เป็นสารอาหารที่มีความสำคัญต่อการเจริญเติบโตของเส้นผม การขาดกรดโฟลิกอาจนำไปสู่ภาวะผมร่วง เนื่องจากวิตามินนี้มีบทบาทสำคัญในการสร้างเซลล์ใหม่ รวมถึงการสร้างเม็ดเลือดแดงและการแบ่งเซลล์ของรากผม
ในบางกรณี แพทย์อาจแนะนำให้ผู้ป่วยที่มีปัญหาผมร่วงรับประทานผลิตภัณฑ์เสริมกรดโฟลิก เพื่อเพิ่มปริมาณกรดโฟลิกในร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มผู้หญิงตั้งครรภ์ที่มีความต้องการกรดโฟลิกสูงเป็นพิเศษ เพื่อป้องกันภาวะผมร่วงในระหว่างตั้งครรภ์และหลังคลอด นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์เสริมกรดโฟลิกยังอาจช่วยรักษาภาวะผมร่วงที่เกิดจากการขาดสารอาหารบางชนิด เช่น โปรตีน ไบโอติน และวิตามินซีได้ด้วย ดังนั้น หากคุณมีปัญหาผมร่วงอย่าลังเลที่จะปรึกษาแพทย์ เพื่อตรวจสอบระดับสารอาหารในร่างกายและได้รับคำแนะนำที่เหมาะสม
สรุป
ทั้งนี้จากสาเหตุต่างๆ และวิธีแก้ไขปัญหาผมร่วงที่เราได้บอกไป การแก้ปัญหาอาจจะต้องปรับให้เหมาะสมกับสาเหตุของผมร่วงแต่ละบุคคล และควรปรึกษาแพทย์เพื่อได้รับคำแนะนำที่ถูกต้อง
